3/9/55

เทศกาลฮานามิ

เทศกาลชมดอกไม้ (Hanami)
เทศกาลชมดอกไม้ (Hanami) หรือเทศกาลชมดอกซากุระ
                   เทศกาลชมดอกไม้หรือที่เรียกว่า ฮานามิ (Hanami) ในภาษาญี่ปุ่นจริงๆ แล้วหมายถึง การชมดอกไม้ (ไม่ได้ระบุว่าเป็นดอกไม้ชนิดไหน) แต่ชาวญี่ปุ่นจะนิยมชมดอกซากุระกันมากกว่าดอกไม้ชนิดอื่นๆ ที่สำคัญดอกไม้ประจำชาติสายพันธุ์นี้ จะบานแค่ปีละครั้งเท่านั้น ครั้งละประมาณหนึ่งอาทิตย์ ผู้คนก็เลยถือโอกาสนี้ให้เป็นเทศกาลชมดอกซากุระ พร้อมกับเป็นการสังสรรค์ประจำปีกันไปเลยทีเดียว

 ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการชมดอกซากุระ (Cherry Blossoms)
           เริ่มตั้งแต่เดือน มกราคม ไปจนถึง พฤษภาคม ของทุกปี ขึ้นอยู่กับพื้นที่ เริ่มจากทางตอนใต้ของประเทศ คือโอกินาว่า ไปสิ้นสุดที่ตอนเหนือ คือ ฮอคไกโด (Hokkaido) ไม่ได้บานพร้อมกันทั้งประเทศ
           การบานของดอกซากุระจะขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศ ไม่ใช่ว่าที่ไหนหรือเวลาไหนก็บานได้ โดยปกติแล้วจะเป็นช่วงเวลาที่อากาศกำลังเย็นสบาย ไม่หนาวหรือร้อนจนเกินไป ซึ่งมักจะเป็นช่วงคาบเกี่ยวระหว่างฤดูหนาวกับฤดูใบไม้ผลินั่นเอง
           และเนื่องจากประเทศญี่ปุ่นมีภูมิประเทศวางในลักษณะแนวตั้ง ดังนั้นฤดูกาลของญี่ปุ่น จากฤดูหนาวสู่ร้อน จึงเริ่มที่ส่วนล่างของประเทศก่อนจากหมู่เกาะโอกินาว่า ซึ่งจะบานตั้งแต่เดือนมกราคมเลย เรื่อยมาจนถึงโอซาก้า เกียวโต นาโงย่า โตเกียว และจะบานเป็นที่สุดท้าย ที่ฮอคไกโดในราวเดือนพฤษภาคม
           โดยดอกซากุระจะบานเพียงช่วงสั้นๆ นับจากวันที่เริ่มผลิดอก จนถึงวันที่ ดอกบานสะพรั่งที่สุด รวมแล้วประมาณ 7 วันเท่านั้น และหลังจากนั้นก็จะร่วงโรยไปทันที นอกจากนี้สภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย พายุ ฝนตกหนัก หรือลมกรรโชกแรง ก็ส่งผลให้ระยะเวลาที่ดอกซากุระบานลดลงได้ หรือหากทีไหนฤดูกาลแปรปรวน (เช่น ฤดูหนาวยาวนานกว่าปกติ) ซากุระก็จะเลื่อนเวลาบานออกไปเช่นกัน
           แล้วไม่ใช่ว่าในท้องที่หรือเมืองเดียวกัน ซากุระจะบานสะพรั่งพร้อมกัน เพราะต้นไหนอยู่ในที่ร่มก็จะบานช้ากว่าต้นที่อยู่กลางแจ้งอีกด้วย

สถานที่แนะนำในการชมดอกซากุระ
          เมืองโตเกียว (Tokyo) สวนสาธารณะอุเอะโนะ (Ueno Park) สวนสาธารณะชินจูกุเกียวเอน(Shinjuku Gyoen) ชิโดริกาฟุจิ(Chidorigafuchi)  สวนสาธารณะสุมิดะ(Sumida Park) สุสานโอยามะ(Aoyama Cemetery) สวนพฤกษศาสตร์โคอิชิคาวะ(Koishikawa Botanical Garden)  สวนสาธารณะอิโนคาชิระ(Inokashira Park)
          เมืองโยโกฮาม่า (Yokohama) สวนสาธารณะคามอนยาม่า(Kamonyama Park) สวนซังเคเอ็น (SAnkeien)
          เมืองคามาคุระ (Kamakura) ดันคาสุระ(Dankazura)
          เมืองนาโงย่า (Nagoya) ปราสาทนาโงย่า (Nagoya Castle)
          เมืองเกียวโต (Kyoto) สวนสาธารณะมารุยาม่า (Maruyama Park) เส้นทางนักปราชญ์(Philosopher’s Trail) ศาลเจ้าเฮอัน(Heian Shrine) อาราชิยาม่า(Arashiyama) ริมแม่น้ำกาโม่(Kamogawa) วัดไดโกจิ(Daigoji) ศาลเจ้าฮิราโน่(Hirano Shrine) คลองโอคาซากิ(Okazaki Canal)
          เมืองฮิเมจิ (Himeji) ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle)
          เมืองอาโอโมริ (Aomori) ปราสาทฮิโรซากิ(Hirosaki Castle)

 ข้อมูลจาก: เที่ยวไม่ง้อทัวร์ ตีตั๋วตะลุยญี่ปุ่น 2 เส้นทางซากุระ (2551)

 แนวเส้นดอกซากุระบานที่ประเทศญี่ปุ่น
          ดอกซากุระที่ประเทศญี่ปุ่นจะเริ่มบานจากส่วนล่างของประเทศก่อน เริ่มจากหมู่เกาะโอกินาว่า ซึ่งจะบานตั้งแต่เดือนมกราคม บานเรื่อยมาจนถึงโอซาก้า เกียวโต นาโงย่า โตเกียว และจะบานที่ฮอคไกโดราวเดือนพฤษภาคม





          

กฎของโรงเรียนญี่ปุ่น


1. ในเวลาเรียน อนุญาตให้จามได้แค่สามครั้งเท่านั้น หากจามเกินสามครั้ง ให้ไปห้องพยาบาล (หนูแค่จาม ไม่ได้ป่วยนะครู! แบบนี้ก็แย่นะถ้าคนเป็นภูมิแพ้หล่ะ!? )
2. เวลาจะ สั่งน้ำมูก เพื่อไม่ให้รบกวนเวลาเรียน ให้แบ่งสั่งทีละนิด ๆ (ให้คิดซะว่าครูเป็นห่วง สั่งน้ำมูกแรงๆเดี๋ยว โพรงจมูกจะพังเอา)
3. เวลาเรียนให้นั่งหลังตรง หน้าต้องห่างจากโต๊ะ 30 เซนติเมตร (นักเรียนคงนักเกร็งจนตะคริวกินแน่ๆเลย >,<)
4. การจดโน๊ตลงในสมุด ต้องใช้ไม้บรรทัดวางทาบและจดให้เรียบร้อย
5. ห้ามพูดคุยกัน ไม่ว่าจะในระหว่างเรียนหรือตอนพัก (แล้วจะได้คุยกันตอนไหนคะเนี่ย ครู เพื่อนหนูคงไม่มีแน่ๆ!!)
6. ห้ามถ่ายรูปตัวหนังสือบนกระดานดำ (อืม .. จำไว้นะ มือถือมีไว้โทร. เข้า-ออกเท่านั้น!!)
7. ห้ามอวดคนอื่นว่า “เมื่อคืนอ่านหนังสือไม่ได้นอนเลย ในวันสอบ” (แบบนี้ก็มีด้วย!! แบบนี้เพื่อนๆก้คงต้องสังเกตุ ตาหมีแพนด้า กันเอาเองแล้วแหละ)
8. ห้ามถามคำตอบจากเพื่อนหรือครูในห้องสอบ (อันนี้มันก็แน่นอนแหละ แต่ถ้าทำไม่ได้ ขอเป็นคอยีราฟหน่อยเนอะ!)
9. ห้ามพับแขนเสื้อ
10. ห้ามเอาแผ่นรองเขียนมาใช้เป็นพัด (ก็หวังว่าในห้องเรียนจะมีแอร์ พัดลมให้เย็นๆนะคะ)
11. นักเรียนต้องปรบมือต้อนรับอาจารย์ทุกครั้งที่อาจารย์เข้ามาสอน (ภูมิใจ ครูชั้นเก่ง!!)
12. ห้าม นักเรียน ชายแอบมองโรงยิมที่ใช้ซ้อมวอลเล่ย์บอลของ นักเรียนหญิง
13. ห้ามจู๋จี๋กันในที่ที่อาจารย์เห็น
14. หากวิ่งมาราธอนเข้าเส้นชัยไม่ได้ในเวลา จะถูกทำโทษโดยให้วิ่งเพิ่ม (เหนื่อยเพิ่มกันไปนะจ๊ะ ถ้าคนอ้วนคงได้วิ่งทั้งวันอะนะ!! ได้ผอมสมใจก็คราวนี้แหละ)
15. ห้ามมองหว่างขาของเพื่อนต่างเพศ และห้ามจินตนาการใด ๆ ทั้งนั้น (อันนี้สั่งไปแล้ว ห้ามได้ไม่ได้ใครจะไปรู้หล่ะ มันคิดอยู่ในสมองนะครู )
16. ห้ามแกล้งทำเป็นจมน้ำตอนเรียนชั่วโมงว่ายน้ำ (แล้วถ้าจมจริงๆ นักเรียนจะตายไหมอะ!)
17. ห้ามนักเรียนที่เป็นแฟนกันกลับบ้านด้วยกัน
18. เวลามาโรงเรียน นักเรียนชายให้ลงสถานี XXX ส่วนนักเรียนหญิงให้ลงสถานี ZZZ (แล้วถ้าบ้านหนูอยู่สถานี XXX หนูต้องเดินย้อนกลับเองใช่ไหมคะ =.=” )
19. หากต้องการจะคุยกับเพื่อนเพศตรงข้าม ให้กรอกข้อมูลลงในใบขออนุญาตคุยไปยื่น เมื่อได้รับอนุญาตแล้ว ให้ไปคุยกันได้ที่ห้องสนทนา (จะคุยกันทียุ่งยากไปนะ)
20. เพื่อไม่ให้นักเรียนแตกตื่นตกใจ เวลามีผู้ต้องสงสัยเข้ามา จะประกาศว่า “มีของมาส่งด่วน” หากได้ยิน ประกาศแบบนี้ ให้นักเรียนและอาจารย์อพยพกันอย่างเงียบ ๆ อย่ากระโตกกระตาก
กฏ แปลกไปรึเปล่าเนี่ย .. แบบนี้นักเรียนก็เครียดตายเลย เอาเปฌนว่าดูกันขำๆนะคะ เพื่อนๆที่คิดว่า โรงเรียนไทยกฏเยอะแล้ว นู้นนิด นี่หน่อยอะไรก็ทำไม่ได้ ลอง อ่าน กฏของ โรงเรียน ญี่ปุ่น แล้วจะรู้ว่า เรื่องของเราจิ๊บๆไปเลยอะ ^^ อิอิ
ที่มา Hayashi Kisara exteen คะ




เมดคาเฟ่


"ยินดีต้อนรับสู่บ้านค่ะนายท่าน" ช่างเป็นคำต้อนรับ ทักทายของสาวเสิร์ฟในร้านกาแฟ ที่ทำให้หนุ่มนักศึกษาวัย 20 อย่าง โคจิ อาเบอิ ถึงกับบอกว่า "มันทำให้ผมรู้สึกตัวลอย อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เมื่อมีใครมาเรียกเราว่านายท่าน"

ไม่ใช่แค่คำพูดเท่านั้นที่ "แปลก" กว่าร้านกาแฟอื่นๆ ในย่านอากิฮาบาระ กลางกรุงโตเกียว แต่ชุดเครื่องแบบของสาวเสิร์ฟในร้านกาแฟ รอยัล มิลค์ คาเฟ่ แอนด์ อโรม่าแคร์ ที่โคจิเข้าไปนั่งจิบกาแฟหย่อนใจอยู่กับเพื่อนยัง "แปลกตา" ด้วยชุดยูนิฟอร์มของ "สาวรับใช้" ที่ดูคิกขุ อาโนเนะ เหมือนที่เราเห็นกันในหนังสือการ์ตูน แต่คราวนี้ได้ออกมาโลดแล่นในโลกแห่งความจริง!!!

ทั้งนี้ จากข่าวเล่าว่า จากที่มีชื่อเสียงเป็นแหล่งขายอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและไอทีที่ฮ็อตฮิตขึ้นชื่อกลางกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น แต่ตอนนี้ ย่านอากิฮาบาระ เรียกได้ว่ากลายเป็น "บ้านหลังที่สอง" ของเหล่าโอตาคุ หรือกลุ่มแฟนผู้คลั่งไคล้การ์ตูนและวิดีโอเกม
ที่บางครั้งยังชอบแต่งตัว "เลียนแบบ" ตัวละครในหนังสือการ์ตูน หรือวิดีโอเกม และตอนนี้ก็มีร้านกาแฟที่เรียกว่า เมด คาเฟ่ (Maid Cafe) ซึ่งพนักงานเสิร์ฟจะแต่งตัวเป็น "สาวรับใช้" คอยให้บริการลูกค้าด้วยท่าทีอันนอบน้อมราวกับลูกค้าเป็น"นายท่าน" และเอาอกเอาใจลูกค้าแบบสุดขีดอยู่ราว 30 ร้าน โดยสาวรับใช้ของร้านกาแฟบางแห่งยังเอาใจถึงขนาดนั่งคุกเข่า "แคะหู" ให้ลูกค้าก็มี หรือบางร้านถึงกับนั่งคุกเข่า "ป้อนอาหาร" ให้ลูกค้าก็มี!!!


หากยังจำกันได้ ก่อนหน้านี้เคยนำเรื่องร้านตัดผมในย่านอากิฮาบาระ ที่ใช้พนักงานแต่งตัวเป็นสาวรับใช้ มาคอยสระผม ตัดผม กระทั่งมีลูกค้าติดอกติดใจมาเล่าสู่กันฟังไปแล้ว 
สำหรับ เมด คาเฟ่ จะว่าไปก็ไม่ใช่ "ของใหม่" หากแต่เริ่มมีมาตั้งแต่เมื่อ 4 ปีที่แล้ว เริ่มจากพนักงานเสิร์ฟจะแต่งตัวเลียนแบบตัวการ์ตูน ตัวละครในวิดีโอเกมยอดฮิตต่างๆ โดยส่วนใหญ่ชุดที่เหล่าโอตาคุชอบแต่งจะเป็น "เด็กนักเรียนหญิง" รวมทั้งชุดสาวรับใช้ในชุดกระโปรงสั้น สวมที่คาดผม สวมผ้ากันเปื้อน นี่ก็ใช่ "ชุดสุดฮิต" ด้วยเหมือนกัน กระทั่งตอนนี้ไม่ใช่มีแต่ลูกค้าที่เป็นวัยรุ่นเท่านั้นที่ชอบเข้าไปใช้บริการ แม้แต่ผู้สูงอายุวัย 70 กว่า หรือคู่สามีภรรยา นักท่องเที่ยวก็ชอบเข้าไป 
"การเข้ามานั่งที่นี่ได้เห็นความสวย น่ารักของเด็กสาวเหล่านี้ เหมือนได้นั่งดูดอกไม้" คิโนโกะ นากาฮามะ หญิงวัย 29 ที่มานั่งจิบกาแฟปล่อยอารมณ์ตามลำพังอยู่ที่ รอยัล มิลค์ฯ บอก ก่อนจะบอกต่อว่า "นี่ถ้าหากฉันมีชุดเสื้อผ้าไซซ์เล็กๆ เหลืออยู่สัก 2-3 ชุด ฉันก็อยากมาทำงานในร้านกาแฟแบบนี้เหมือนกัน" 
ขณะที่สาวเสิร์ฟอย่าง ฮินากะ บรรยายถึงความรู้สึกที่ได้มาทำงานในชุดสาวรับใช้ว่า "การได้มาทำหน้าที่สาวรับใช้ที่นี่ ช่างเป็นอะไรที่สุดยอดสำหรับฉัน...ฉันไม่ได้แสร้งทำเป็นสาวรับใช้ แต่ฉันเป็นจริงๆ" 
นอกจากให้บริการเสิร์ฟกาแฟ เสิร์ฟอาหาร สาวเสิร์ฟฮินากะ ซึ่งมีความรู้เรื่องหนังสือการ์ตูนเข้าขั้นโอตาคุ ยังพร้อมให้บริการ "นั่งคุยกับลูกค้า" เพื่อสนทนาเกี่ยวกับเรื่องหนังสือ หรือตัวละครในหนังสือการ์ตูนต่างๆ ภายในห้องส่วนตัวของร้านกาแฟ ที่ภายในอัดแน่นไปด้วยหนังสือการ์ตูนมากมาย แล้วยังตุ๊กตาของตัวละครในหนังสือการ์ตูนต่างๆ ดีวีดีหนังการ์ตูน ด้วยค่าบริการ 9,000 เยน (ราว 3,015 บาท ) 
ฮินากะมีอายุไม่เกิน 20 ปี เช่นเดียวกับสาวเสิร์ฟใน รอยัล มิลค์ฯ ที่มีอายุเฉลี่ยประมาณ 20 และต้องมีรูปร่าง หน้าตาดูแล้วอินโนเซนส์ เป็นเด็ก มาก่อนเป็นอันดับแรก เพราะนี่เป็นหนึ่งใน "จุดขาย" ของทางร้าน ที่โทโมโกะ อินูคาอิ นักสังคมวิทยา ให้ความเห็นว่า "คอนเซ็ปต์ของร้านกาแฟแบบนี้ก็คือ การใช้สาวเสิร์ฟที่ดูเด็ก ดูไร้เดียงสา มาให้บริการลูกค้าผู้ชายนั่นเอง"

ทั้งนี้ โทโมโกะยังฝากความเห็นทิ้งท้ายอันน่าขบคิดไว้ด้วยว่า "ร้านกาแฟแบบนี้ ได้เปิดโอกาสให้ผู้ชายที่รู้สึกเครียด รู้สึกกดดันในชีวิตประจำวัน ได้หนีออกมาสู่โลกของจินตนาการ แต่นี่ก็แทบจะไม่ได้ช่วยอะไรเลย โดยเฉพาะเรื่องการเรียกร้องสิทธิความเสมอภาคทางเพศ ในสังคมที่ยกผู้ชายเป็นใหญ่" 






Cr //  มติชน

คิโนะชิตะ ฮิเดโยชิ

ถ้าจะพูดถึงสาวดุ้นที่กระแสแรงที่สุดในปัจจุบันนี้ คงไม่มีใครปฎิเสธ ถ้าจะบอกว่า "คิโนชิตะ ฮิเดโยชิ" เป็นสุดยอดสาวดุ้นในขณะนี้... 
ที่บอกว่าเขาเป็น "สาวดุ้นที่คนจิ้น" ก็เพราะว่า เจ้านี่มันยังมีหัวเป็นชายตามเดิม ชุดนักเรียนก็ใส่ของเพศชาย เพียงแต่ว่าโดนคนรอบข้างในเรื่อง (+ผู้ชม) จิ้นให้เป็นสาวดุ้นขอรับ เพราะจากหลายเหตุการณ์ พี่แกก็บอกว่าเป็นชายแท้ตลอด ซึ่งก็เพิ่งมาเปิดตัวว่าเป็นเพศ "ฮิเดโยชิ" (เพศใหม่?) เอาก็ราวๆ ตอนที่ 6 แล้ว.... 
ตามเนื้อเรื่อง พี่แกก็จะมีแฝดเป็นพี่สาวที่หน้าตาเหมือนกันอีกคนหนึ่งอยู่ด้วย แต่นอกจากหน้าตาแล้ว ก็ตรงข้ามกันหมดทุกอย่างตั้งแต่เพศ นิสัย จนถึงสมอง ซึ่งนี้คงจะเป็นที่มาของการที่ทำไมไอ้ฮิเดโยชิมันถึงได้เป็นสาวดุ้นได้... 
และการที่ไอ้บ้านี้อยู่ในชมรมละครด้วยละมั้ง จึงมีชุดคอสให้เห็นอยู่บ่อยๆ แต่ก็อย่างว่าแหละครับ เรื่องนี้ดูเหมือนว่าเขาตั้งใจจะดันฮิเดโยชิให้ดังอยู่แล้วด้วยละ 
ปล.จากการ์ตูนเรื่อง
baka to test to shokanju








Nendoroid คืออะไร


Nendoroid คืออะไร
Nendoroid (ねんどろいど) เนนโดรอยด์ เป็นยี่ห้อของของเล่นพลาสติกขนาดเล็กโดยมักจะจำลองจาก anime
หรือการ์ตูนและมักใช้เป็นขอสะสมหรือของเล่น โดยจะมีความสูงประมาณ 10 cm (4 in) แตกต่างกันเล็กน้อยขึ้นอยู่กับตัวละคร
ปกติจะทำในลักษณะ SD หรือแบบหัีวโตๆ เพื่อให้ดูน่ารัก ใบหน้าและส่วนต่างๆของร่างกายสามารถถอดเปลี่ยนได้เพื่อการโพสท่าที่ต่างกัน
(ปรกติหน้าเปลี่ยนได้ 3 แบบ อะครับ แล้วก็จะมีมือหรืออุปกรณ์แบบต่างๆมาให้ )



OTAKU ศัพท์

1.ดึง    ใช้เวลาไปซื้อการ์ตูน จะใช้แทนคำว่าซื้อ เช่น วันนี้ไปดึงฮารุฮิมาล่ะ  ประมาณนี้ แต่ มันไม่ค่อยเป็นที่นิยมมั้ง ไม่ค่อยได้ยิน

2. เสพ  แปลตรงตัว ติดตามดูเรื่อยไม่ขาดตอน ประมารนี้แหละนะ

3. สปอยล์(Spoil)    อย่าเข้าไปหรือเผลอไปอ่านเชียว เพราะมันคือการเล่าเรื่องราวล่วงหน้า หรืออาจจะ

มีข้อความที่เกี่ยวกับเนื้อเรื่องสำคัญๆ ใครที่ยังไม่ได้ดูถึงที่เค้าๆเล่ากัน หากเผลอไปอ่านนี่...อย่างเซ็ง

มักใช้คำนี้กับ ภาพยนตร์และการ์ตูน

4. OTL อาการแสดงความพ่ายแพ้ของโอตาคุ  ลองสังเกตอักษรสามตัวนี้แบบติดกันดูสิ มันเหมือนอะไร?
              ปล. ถ้า Orz ขาจะคุกเข่า

5.  เซย์ยู   โอตาคุใช้เรียกนักพากย์การ์ตูนของญี่ปุ่น เช่นเดียวกับที่ใช้เรียกนักวาดการ์ตูนญี่ปุ่นว่า เซ็นเซย์ (อาจารย์)

ปล. คำว่า " พากย์ " นี่ใช้ ย. การันต์นะไม่ใช่ ษ.

6.  ปาหมอน    ใช้หมายถึงตอนจบของการ์ตูนหรือหนังที่จบแบบห่วยสุดๆ   มาจากการ์ตูนเรื่อง ชาแมนคิง ที่สู้กันมาตั้งนาน 30 กว่าเล่ม สุดท้ายตัวละครหลักๆก็มาปาหมอนเล่นกันแล้วก็จบลงไปดื้อๆ

7.  ผ้าเหลือง   ศาสดาแห่งความหื่น , การ์ตูนอนิเมชั่นแบบโป๊ที่โด่งดังที่สุด   ตามเนื้อเรื่องเค้าคือ

ภารโรงที่มีเอกลักษณ์ที่จะพาดผ้าขนหนูสีเหลือง ยามว่างมันจะแอบถ่ายภาพสาวๆในโรงเรียนไป

แบล็คเมล์เพื่อปล่อยแยมสีขาวใส่   หากตามงานการ์ตูน ถ้าพบใครพาดผ้าสีเหลืองล่ะก็ เค้าไม่ได้พาด

โก้ๆหรอกนะท่าน เค้ากำลังคอสเลยล่ะ

8.  ดอง   ซื้อลิขสิทธิ์มาแล้วออกช้ามากๆ เช่น " โคนันเล่มใหม่เมื่อไหร่จะออก ทำไมดองนานจัง "

9.  ถังแตก เชื่อมโยงมาจากคำว่าดอง หมายถึงถังที่ใช้ดองการ์ตูนนั้นๆมันแตกแล้ว ง่ายไคือ การ์ตูนนั้นๆ ได้ออกมาวางขายแล้ว

10.   ตัวอักษรศีลธรรม   พรึ่บ , คว้าง , ผ่าง ใช้เซ็นเซอร์หนังสือการ์ตูน ในฉากวับๆแวมๆ

11. จิ้น    ย่อมาจากอิเมจิ้น เป็นการใช้จินตนาการให้คนสองคนมีอะไรกันในจินตนาการของเรา เช่น " จิ้นหนุ่มหล่อ 2 คนนั้นให้มา Y กัน " เป็นศัพท์ที่ปกติฝ่ายหญิงจะใช้กันซะมากกว่า

12.  สโตร์ค , สโตร์คเกอร์ (Stalk , Stalker จริงๆอ่านสทอร์ค)    แอบติดตามพฤติกรรมของใครคนนึง ถ้าเติม -เกอร์ แปลว่าพวกแอบตาม    ถ้าใช้ในวงการคอสเพลย์ หากเป็นผู้ชายจะหมายความว่า พวก

โรคจิตแอบ  ตามแอบถ่ายรูปเลเยอร์ผู้หญิง หากใช้กับผู้หญิงคือการแอบติดตามถ่ายเลเยอร์ที่ปลื้ม

13.   โมเอะ    อารมณ์ประมาณว่า น่ารัก มีแต่โอตาคุเท่านั้นที่ใช้คำนี้     

14.     OVA (โอวีเอ) - Original Video Animation เป็นพวก Anime ที่ไม่ฉายทาง TV แต่ทำ VCD / DVD ขายเลย

15.  ซับนรก  การพากย์หรือแปลการ์ตูนเอามัน(ส่วนมากอยู่ในอนิเม) และมักจะไม่ถูกต้องตามเนื้อเรื่องจริง เน้นตลก เอาฮามากกว่า

16.  ฟุโจชิ หมายถึง โอตาคุที่เป็นผู้หญิง

17.  Shonen (โชเน็น)  การ์ตูนผู้ชายทั่วๆไป

18.  Shojo (โชโจ)   การ์ตูนผู้หญิงทั่วๆไป

19.   VCD   สื่อรูปแบบหนึ่งที่นำออกมาขายเพื่อทดลองว่าจะทำออกมาเป็น DVD ดีหรือเปล่า, สื่อราคาถูกสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการการ์ตูนโดยไม่ใส่ใจการพากย์และคุณภาพมากนัก

20.   DVD   สื่อรูปแบบหนึ่งที่โอตาคุยอมเสียเงินมากกว่า 3 เท่าของ VCD เพื่อเอาเสียงพากย์ต้นฉบับภาษาญี่ปุ่น แน่นอนว่าคุณภาพของภาพและเสียงย่อมดีกว่า VCD เช่นกัน

21.  ไนซ์โบ๊ท (Nice Boat)   มาจากอนิเมะเรื่องสคูลเดย์ใน เวลาก่อนที่จะฉายตอนสุดท้ายนั้นมีเหตุฆาตกรรมลูกสาวฆ่าพ่อด้วยการจามขวานที่ คอ จึงทำให้ผู้ฉายคิดว่า อาจจะโดนข้อหาเป็นเหตุยุยงให้เกิดอาชญากรรมขึ้นมา เลยจัดการแก้ปัญหาโดยการเอาภาพเรือมาให้ดูแทน

22.   Pirate (ไพเรท)   ของไม่มีลิขสิทธิ์ ของขโมยมา ถ้าเป็นหนังสือการ์ตูนหน้าปกมักจะยั่วยุกามรมณ์แต่ข้างในต๊ะติ๊งโหน่ง

23.  Fansub (แฟนซับ)   การ์ตูนแปล, สิ่งผิดกฏหมายที่ทำให้ถูกต้องโดยการเอามาเผยแพร่ในประเทศที่ไม่มีลิขสิทธิ์

24.  Pramool Webboard (ประมูลเว็บบอร์ด)    แหล่งพูดคุย(สื่อสาร)อีกแหล่งของโอตาคุ เป็นลักษณะค่อนข้างสาธารณะ โดยแบ่งเป็นห้องๆให้คนมาตั้งหัวข้อเรื่องต่างๆ เพื่อมาพูดคุย แสดงความคิดเห็น รวมทั้งทะเลาะระหว่างสมาชิกบอร์ดด้วยกัน

25.  Idol (ไอดอล)   คำแสดงยศชั้นสูงของเลเยอร์ เมื่อคอสเพลย์หลายๆครั้งเข้าจนคนจำได้และ + กับมีหน้าตาดีกว่าปกติ จะได้เลื่อนยศมาเป็น Idol ได้

26.   Gardian (การ์เดี้ยน)   องครักษ์พิทักษ์ไอดอล มีทั้งแบบร้องขอและแบบไม่ร้องขอ โดยอย่างหลังส่วนมากเป็นพวกโอตาคุชายโรคจิต ที่ชื่นชอบเป็นแฟนคลับของไอดอลคนนั้นๆ

27.    Layer (เลเยอร์)    ย่อมากจาก Cosplayer แปลว่านักคอสเพลย์ จะคอยไปคอสเพลย์ตามงานการ์ตูนเพื่อให้คนอื่นจำได้ (ครั้งสองครั้งจึงไม่นับว่าเป็น Layer) ส่วนใหญ่เป็นพวกฐานะดีบ้านมีอันจะกิน เพราะชุดคอสราคาแต่ละชุดส่วนมาก 1000 บาทขึ้นไปและไม่ค่อยซ้ำในแต่ละงาน

28.  Cosplay (คอสเพลย์)   ย่อมาจากคำว่า Costume Playing หมายถึงการแต่งตัวเลียนแบบตัวละครหรือตัวการ์ตูนที่ชื่นชอบ  

29.  Coslover (คอสเลิฟเวอร์)   มีความหมายเหมือนเลเยอร์ทุกอย่าง แต่จะใช้กับพวกหน้าตาไม่ดี บางทีหน้าตาบางคนอาจจะเหมือนแรงงานอพยพแต่อยากแต่งคอสเป็นพระเอกนางเอกของ เรื่องที่ตัวเองชื่นชอบ

30.  Kachapong (กาจาปอง )   มาจากคำว่า "กาจ๊าง เสียงตอนโมเดลบรรจุไข่ตกลงมา " เป็นฟิกเกอร์ลงสีสำเร็จบรรจุไข่ ราคาถูกกว่าฟิกเกอร์ประเภทข้างบนมาก ตกลูกละ 80 บาท มีเป็นชุดชุดละประมาณ 5-6 ตัวบางชุดจะมีตัวลับซ่อนอยู่ด้วย

31.  Figure (ฟิกเกอร์)    โมเดลลงสีสำเร็จราคาแพงขนาดใหญ่ ส่วนมากราคาตกประมาณ 1500 บาทขึ้นไป

32.  Doujin, Doujinshi (โดจินชิ)    ของทำมือ เช่นการ์ตูนทำมือ ซอร์ฟเกมส์สร้างเอง พวงกุญแจ ฯลฯ แต่มักใช้หมายถึงการ์ตูนทำมือ โดจินพวกนี้มักจะมีราคาแพงเพราะทำออกมาจำกัด มีหน้าปกและกระดาษอย่างดีถ้าพวกที่ซีร็อกซ์เอาจะถูกหน่อย

33.  Manga (แมงง่า/แม่งหง่ะ)   หมายถึงหนังสือการ์ตูน ถ้าเป็นประเทศอเมริกาจะใช้คำว่า Comic

34.  Anime (อนิเมะ)   ย่อมาจากอนิเมชั่น หมายถึงภาพเคลื่อนไหว ถ้าเป็นประเทศอเมริกาจะใช้คำว่า Cartoon

35.  Figma(ฟิกมา)   เป็นโมเดลที่ยังไม่ได้ลงสีและดัดแปลงรูปร่างได้ตามต้องการ และตามจิตนาการของเจ้าของ

36.   Nendoroid (เนเโดรอยด์)  เป็นโมเดลสำเร็จรูป ที่ ดัดแปลงรูปร่างได้  เปลี่ยนหน้าตา และอารมณ์ได้



CosPlay


คอสเพลย์ cosplay คืออะไร?


คอสเพลย์ (cosplay) ย่อมาจากคำว่า คอสตูม เพลย์ (costume play) เป็นภาษาอังกฤษของคนญี่ปุ่น คอสตูม เพลย์คือการละครย้อนยุคที่สวมเสื้อผ้าสมัยก่อน ยกตัวอย่างเช่น ละครหนุมานที่ไทยเป็นต้น ที่ญี่ปุ่นคำนี้ได้ถูกใช้เป็นการเรียกชื่อโดยรวมของการเลียนแบบการแต่งกายของตัวละครจากเกม, อนิเม, การ์ตูนมาตั้งแต่ช่วงปี1980 เพราะคำว่าคอสตูม เพลย์มันยาวเกินไป จึงได้กลายเป็น"คอสเพลย์"ให้เรียกได้ง่ายๆ
การคอสไม่ว่าจะที่ประเทศำไหนก็เป็นสิ่งที่มีมาตั้งแต่ก่อนแล้ว ลักษณะเด่นของฮาโลวีนที่เป็นที่นิยมในเขตศาสนาคริสต์ ที่อเมริกาก็เคยเพลิดเพลินกับการคอสตัวละครจากเรื่องสตาร์วอร์ส
ทว่า การคอสตัวละครจากเกม, การ์ตูน และอนิเมที่จะถูกจัดขึ้นโดยแฟนจำนวนมาก ดูเหมือนว่าญี่ปุ่นจะเป็นที่แรก เกม, การ์ตูน, อนิเมมีอิทธิพลเป็นอย่างมากที่ญี่ปุ่น นั่นก็คงเป็นเพราะมีแฟนที่คลั่งไคล้เป็นจำนวนมากนั่นเอง พอชื่นชอบตัวละครมากๆเข้า ก็หันมาคอสโดยสมบูรณ์ เพราะเหตุนั้นการคอสจึงเป็นการทำเหมือนตัวละคร
สำหรับเด็กที่คลั่งไคล้ พอตัวเองได้เป็นตัวละครจากเกม, การ์ตูน และอนิเม ภาพลวงตาก็เป็นเรื่องธรรมชาติ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่สนุกมากๆ ทว่า เมื่อเป็นผู้ใหญ่ สิ่งนั้นก็จะไม่ถูกแยแสในฐานะพฤติกรรมอ่อนหัด ห้ามทำ
แต่ ณ ตอนนี้ เรื่องนั้นไม่เกี่ยวกับอายุแล้ว ถึงจะเป็นผู้ใหญ่แต่ก็สามารถสนุกสนานไปกับภาพลวงตานั้นได้ เพราะสำนึกที่ว่าแม้วัยจะเป็นผู้ใหญ่ แต่ภายในจิตใจก็ยังคงหลงเหลือส่วนที่เป็นเด็กอยู่มาก การสนุกสนานไปกับมันจึงไม่ใช่สิ่งที่ไม่ดี

ประเภทของคอสเพลย์

ส่วนมากนิยมคอสเพลย์เลียนแบบหนังสือการ์ตูน, โดจิน, เกมคอมพิวเตอร์ หรืออะไรก็ตามที่ทำมาแบบโมเอะ บางครั้ง ก็ไม่ได้มาจาก เกมส์ หรือ อนิเมะ แต่อาจมาจากแหล่งอื่น เช่นว่า หนูมิกุ จากโปรเกรียนเลียนเสียง วัวคอลลอยด์ หรือจากรูปวาด จากนักวาดการ์ตูน (ที่ไม่ได้เป็นอนิเมะ) ซึ่งก็ยังเข้าข่ายว่าต้นฉบับเขาทำมาแบบโมเอะอยู่นั่นเอง

อนิเมะ การ์ตูน

ผู้คอสเพลย์ (เลเยอร์) จะแต่งชุดให้คล้ายกับตัวละครจากใน อนิเมะ(การ์ตูนยุ่นปี่) เช่นว่า มาเฟียจากรีบอร์น , นักเรียนโรงเรียนมหาโฮโล้ จากศาสนาเนกิมะ หรืออะไรก็ตามที่กำลังเป็นที่นิยม และสามารถโชว์ความสวยงามได้ (แต่บางครั้งก็รู้สึกว่าจะมีตำรวจตามมาด้วย เพราะแต่งแล้วมันอาจจะโป๊วาบหวิวเกินไป หรืออาจเป็นเพราะเข้าใจผิดว่าไม่ได้เล่นคอสเพลย์ แต่ถูกบังคับขืนใจให้แต่งตัวแบบนี้)

เกมส์

เกมส์บางเกมส์ เป็นที่นิยม และมีตัวละครในเกมที่มีความสลักสำคัญ และชุดสวย เลเยอร์ก็สามารถตัดชุด แต่งคอสได้อย่างสวยงาม

ภาพยนตร์

น้อยรายมากที่จะแต่ง โดยอิงภาพยนตร์ แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยมี อย่างเช่น ข้าหลวงและเหล่าโจรสลัด จาก Pirates of the Caribbean (ชุดเหมือนผู้ดีอังเกรียนยุควิดดอเมีย) หรือแม้แต่ในหนังโป๊ ก็เป็นไปได้ว่าอาจจะเคยมีการคอสเพลย์ ที่เลียนแบบ โรส ดอสั้น ตอนที่สวมสร้อยคอแล้วนอนให้แจ๊ควาดรูป ในเรื่อง ลาวทานิค ชู้ฟัคเรือล่ม


นักร้อง นักแสดง

อันนี้มากกว่า แบบภาพยนตร์ แต่ก็ยังจัดว่าน้อยอยู่ดี กระนั้นก็ใช่ว่าจะไม่มีเลย เช่น ในประเทศยุ่นปี่ ประเทศเกาเหลาใต้ หรือแม้แต่ในประเทศเทยเราเอง ก็มีวงดนตรีหญิงสาวรูปร่างหน้าตาดี แต่งตัวโมเอะ หรือวงที่มีการแต่งคอสขึ้นปกอัลบั้ม หรือแต่งคอสลงนิตยสาร หรือแต่งคอสขึ้นเวทีหรือขึ้นคอนเสิร์ต รวมไปถึงอาจแต่งคอสถ่ายโฆษณา เป็นต้น ก็เป็นไปได้ที่จะมีผู้คอสตามดารานักร้องเหล่านี้เช่นกัน


อันนี้น่าจะเป็นการแต่งเพื่อล้อเลียนทางการเมือง จัดแสดงปาหี่ หน้าทำเนียบรัฐบวม หรือเรียกร้องให้ลาออก หรือขับไล่ ทั้งด้วยเหตุผล และความไร้เหตุผล เช่น
 
โจรโพกผ้าแดง นำโดย โทรมบัดสี บุ่มบ่ามอัดโหน่ง มีการประท้วงโดยคอสเพลย์เลียนแบบทเห่อ เพื่อแสดงภาพตัวอย่างว่าทเห่อฆ่าประชาชินผ้าแดงอย่างไรนักการเมือง

กามา

ดาราหนังโป๊แต่งชุดนักเรียน ชุดพยาบาล เมด หรืออื่น ๆ ก็อาจจัดอยู่ในคอสเพลย์ ทั้งนี้ขึ้นกับความโมเอะ
เมื่อเทียบกับประเภทอื่นแล้ว ประเภทนี้ไม่มีจำนวนเลเยอร์ มาแสดงเลย แต่มีจำนวนดารามาทดแทนมากมาย (ดาราบางคนอาจเคยเป็นเลเยอร์มาก่อน แต่ต่อมาพบว่ามีความชอบในเรื่องกามา จึงหันมาเป็นดาราแทน) และมีจำนวนงานมากที่สุด เช่น มิยาบิ, อาโออิ และอื่น ๆ อีกมากมายจนจำไม่ได้ ดาราบางคนมีหน้าตาคล้าย ๆ กัน รูปร่างเหมือน ๆ กัน ก็ยิ่งจำยากไปใหญ่ ดาราบางคนอาจใช้หลายชื่อมากมาย ก็ยิ่งจำไม่ได้เข้าไปอีก
ในบางกรณี อาจจะเป็นใครก็ไม่รู้ แต่งอยู่ในสถานที่ปกปิด เพื่องานปกปิด ซึ่งเนื้อหานั้นเป็นข้อมูลปกปิด เช่น บางคนอาจจะกระทำการคอสเพลย์ตนเองเป็นผู้หญิง อาจแต่งกายโป๊เปลือย วาบหวิว รัดรูป เพื่อประโยชน์สุขในการทำกิจกรรมส่วนตัว เป็นต้น




OTAKU

โอตาคุ คือกลุ่มคนที่ชอบในสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นอย่างมาก ถึงมากที่มุด หากไม่ได้สัมผัสสักวันนี่ เป็นไปไม่ได้
 
ตามความคิดของผู้เขียน โอตาคุจะแบ่งเป็น 2 สาย ใหญ่ๆ คือ

1 )  สายสว่าง คือสายที่เสพอะไรที่เป็นปรกติ   ชอบดูแนวต่อสู้แบบปรกติ ธรรมดา ไม่ได้โหดร้ายอะไร และดูแนวรักหวานหวานได้

2 )  สายมืด  คือ สายที่ตรงข้ามกับสายแรกทุกอย่าง อะไรที่มันออกแนวซาดิส เลือดกระจาย หรือ
 H 18+  อะไรประมาณนี้ จะเป็นที่โปรดปรายของสายนี้เลยทีเดียว  (มีส่วนทำให้เหล่าโอตาคุถูกมองไปในทางทีไม่มีค่อนข้างสูง)


          โอตาคุความหมายตรงตัวคือ แฟนพันธ์แท้  ไม่จำกัดว่าต้องเป็น คนที่ชอบการ์ตูนเป็นอย่างมากเท่านั้นนะ แต่รวมถึง คนที่เป็นแฟนพันธ์แท้ทุกอย่างเลยก็ว่าได้  เอาง่ายๆ ที่รายการ"เเฟนพันธ์แท้"ของไทยน่ะ ใช่หมดเลย

          แต่คำว่าโอตาคุในประเทศญี่ปุ่นนั้น กลับหมายความว่า พวกโรคจิต =0=  SHOCK !!!
     เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็เพราะว่าในสมัยอดีตกาลนานมาแล้วนั้นมีชายคนนึงที่เป็นโอตาคุสายการ์ตูน มันไปข่มขืนเด็ก ที่เด็กมากๆ แล้วมันก็เป็นอะไรที่ฝังใจคนญี่ปุ่นมากๆ ถึงแม้ว่าในตอนนี้กระเเสเรื่องนี้มันเริ่มหายไปแล้ว แต่เหล่าโอตาคุก็ยังคง "อยู่ยาก" อยู่ดี เพราะ เด็กที่ตั้งแต่ม.ต้นลงไปของญี่ปุ่น จะจงเกลียดจงชังเหล่าโอตาคุมาก (ไม่นับถ้าตัวเองเป็นเองนะ ถ้าเป็น ก็ต้องหาพวกให้ได้เเละเก็บเป็นความลับ ไม่งั้นจะโดนแบน(ไม่เข้าใจตรงนี้ไปดูที่การ์ตูนเรื่อง น้องสาวของผมไม่น่ารักขนาดนั้นหรอกนะจ๊ะ // ขายของ 555 ))

เหล่าโอตาคุการ์ตูนนั้น จะพบมากในงานอีเว้นคอสเพลย์ต่างๆ ที่ในตอนนี้มีมาเรื่อยๆไม่ขาดสายเลยล่ะ

เหล่าโอตาคุนั้นมักจะมีความฝันอย่างหนึ่ง คือ สักครั้งหนึ่งในชีวิตจะต้องไปที่ร้าน "เมดคาเฟ่" ให้ได้ ยังกับว่าชาวมุสลิมจะต้องไปแสวงบุญยังนครเมกกะห์ อะไรประมาณนั้น

ไปศึกษาต่อแบบ น้ำๆได้ที่http://www.youtube.com/watch?v=186MwjdOilg )

สาวดุ้น

 สาวดุ้น หมายถึง สาวน้อยธรรมดา ที่มี ดุ้น เป็นเอกลักษณ์ประจำเป็น สาวดุ้น ถือว่าเป็น โมเอะ สายหนึ่ง เรื่องน่ากลัวก็คือ กว่าจะรู้ก็สายไปซะแล้ว เพราะไม่มีอะไรบอกได้เลยว่า ใช่ หรือไม่ใช่ อย่างไรก็ตาม สาวดุ้นในยุคปัจจุบันนี้เป็นที่โด่งดังมาก โดยพวกสาวแต้ๆจะมีสกิลในการดูออก และตีความให้หน้าตาโมเอะๆกลายเป็นหน้าหล่อไปได้  คำว่าสาวดุ้น จะให้แปลตรงตัว และให้เข้าใจง่ายๆเลยก็คงจะเป็น "สาวที่มีดุ้น" นั่นเอง

ยกตัวอย่างตัวการ์ตูนสาวดุ้นที่เป็นที่นิยม ก็อย่างเช่น  คิโนะชิตะ ฮิเดโยชิ  , จุนจัง(หนูจุน)  , ไอคาว่า คิซึนะ  ,  มิตซูโฮกะ โอนี่ซามะ   
ปล.เหล่าโอตาคุทั้งหลาย หลังจากรู้่ว่าตัวละครตัวใดเป็นสาวดุ้นก็จะยิ่งชาบูให้เหนือสาวเเต้ๆ

คุณสมบัติของสาวดุ้น
  • แน่นอนว่าต้องมี ดุ้น
  • หน้าตาต้องจิ้มลิ้มน่ารัก ไม่เช่นนั้นไม่ผ่าน
  • ต้อง โมเอะ
  • และแน่นอนว่า กลมกลืนกับนังชะนีมากๆ
  • เสียงต้องเหมือนผู้หญิงมาก ๆ ไม่งั้นคงไม่มีใครชอบหรอก (ยกเว้นในหนังสือการ์ตูน ซึ่งผู้อ่านจะไม่ได้ยินเสียงของเขา/เธอ)
  • ความสามารถลึกลับ/พลังลึกลับ ในการดึงดูดผู้คน จนทำให้รู้สึกว่า ได้คะแนนนิยมมากกว่าคนอื่น (ตัวละครหลักๆ) อย่างไม่มีเหตุผล
 
ความสามารถของสาวดุ้น
  • โด่
  • แพลม
  • แฉลบ
  • เผยอ ((นิสนึง))







สายต่างๆของโอตาคุ

Shojo    การ์ตูนผู้หญิงทั่วๆไป

E Ecchi     ลามกเล็กๆ ทะลึ่งหน่อยๆ 

Holy  ตัวอักษรภาษาอังกฤษที่ใช้ย่อแนวของการ์ตูนประเภทต่างๆ หลักๆคือ 4 ตัวนี้ 
( 4 ธาตุหลักสายพลัง)

H (Hentai)
โรคจิต , ลามก ใช้เติมสรรพนามเพื่อเพิ่มความหมายคำว่าโป๊ เช่น H-Dojin(โดจินโป๊) ,
H-Anime(การ์ตูนโป๊) , H-Game(เกมส์โป๊) ฯลฯ แม้จะผิดกฏหมายแต่โอตาคุ
ชายก็เต็มใจที่จะหามาในครอบครอง และหาเหตุผลอันชอบธรรมในการเสพ

O(Obacon)    ผู้ที่ชอบคนที่มีอายุมากกว่า , นมโต Ojicon ผู้ที่ชอบชายแก่ ตรงข้ามกะ Shotacon 

L(Lolicon)   ชอบเด็กหญิง ถ้าอายุจัดอยู่ในเกณฑ์โดนข้อหาพรากผู้เยาว์ให้จัดอยู่ในหมวดนี้


Shotacon    ชอบเด็กชาย ถ้าอายุจัดอยู่ในเกณฑ์โดนข้อหาพรากผู้เยาว์ให้จัดอยู่ในหมวดนี้ 

Y      รักร่วมเพศ แบ่งออกมาอีก 2 ประเภทคือ

1.Y Yaoi (ยาโอย)
กลุ่มสงวนพันธ์ป่าไม้ ง่ายๆชอบพวกชอบเพศเดียกันชายแบ่งสายได้ 2 สายคือ
MAE YOAI [เมะ y สายรุก] ชอบเข้าทางข้างหลัง
KAE YOAI [เคะ y สายรับ] ชอบถูกกระทำทางด้านหลัง
Shonen ai ความรักบริสุทธิ์ระหว่างชายกะชาย [ไม่ติดเรท] - จัดอยู่ในสายขาวนะ

2.Yuri(ยูริ) 
สมาคมอนุรักษ์ดนตรีไทย ง่ายๆชอบพวกชอบเพศเดียกันหญิง แบ่งได้ 2 สายเช่นกัน
MAE YURI [เมะ y สายรุก] ชอบแสดงตัวเป็นชาย
KAE YURI [เคะ y สายรับ] ชอบถูกกระทำกับเพศเดียวกัน
Shojo-ai(โชโจไอ)ความรักบริสุทธิ์ระหว่างหญิงกะหญิง [ไม่ติดเรท] - จัดอยู่ในสายขาว
เช่นกันแม้จะผิดกฏหมายแต่โอตาคุหญิงก็เต็มใจที่จะหามาในครอบครอง 
และหาเหตุผลอันชอบธรรมในการเสพ

JIN 
มาจากคำว่า Imagine(อิเมจิ้น) แปลว่าจินตนาการ ใช้กับวงการ Y โดยผู้ใช้สามารถจิ้น
ให้ตัวละครนึงไปมีอะไรกับตัวละครเพศเดียวกันทั้งๆที่เนื้อเรื่องหลักจะไม่ได้มีอะไรกัน
เลยได้

Sport 

สายนี้ค่อนข้างจะบ้าพลังเอามันทุกอย่างกูจะเล่นกีฬาทุกประเภทซำยังมีท่าไม้ตายเวลา
จะเล่นอีกเอาก๊ะมันดิเคยมีเพื่อนคนนึงมันทดลองจะเตะลูกจากครึ่งสนามไปที่โกลตาม
แบบซึบาสะ-มันบ้า คำเตือนเวลาเล่นกีฬากะ X พวกนี้กรุณาเอาที่อุดหูมาด้วยเพราะเสียง
ดังน่ารำคาญยิ่งนัก

Harem 
สายนี้จะเป็นพวกชอบอยู่ห้อมล้อมด้วยสาวๆสวยน่ารักมากมายแถมด้วยทุกคนรุมรัก - 
เช่นเนกิมะ

SM มาจากคำว่า Sadism&masokism 
กลุ่มคนที่นิยมใช้ โซ่ เทียน แส้ กุญแจมือ 

Maho (แปลว่าเวทมนต์)

กลุ่มคนที่ชอบสาวน้อยเวทมนต์ - อันนี้แน่นอนโดเรมี 

Robot 

กลุ่มคนที่บ้าความเป็นเครื่องจักรกลอย่างเข้าใส้ซึ่งสามารถที่จะบอกรุ่นความสามารถ
สรรถนะของหุ่นทุกตัวในโลกออกมาได้ ซึ่งสายนี้ค่อนข้างแยกได้ชัดโดยมี กันดัม 
เป็นผู้นำลัทธิ Super Robot Gundam Eruka Evangalien

Rider 
สายนี้ค่อนข้างแยกตัวออกเป็นเอกเทศจากสายอื่นเนื่องจากภูมิใจในประวัติอันยาวนาน
ของตนเองเเละพัฒนาการที่ก้าวหน้าจากฮีโร่ไร้สาระกลายเป็นฮีโร่เพื่อชีวิต-
สร้างสรรค์สังคม-เน้นความรัก และเลิกกระโดดถีบโดยหันมาใช้ดาบและปืน มือถือ 
ติดการด์ในการต่อสู้เเทน โดยที่ยังคงอยู่คือท่าแปลงร่างที่คนในสายนี้จะจำได้หมด
ไม่ว่ามันจะออกมากี่ตัวต่อกี่ตัวก้อเถอะ - ช่วงหลังๆออกมาเยอะถึงขนาดตั้งทีมฟุตบอล
ได้ทีเดียวเชียว 

Ranger
สายเพื่อนสนิท - นี้ถ้าไม่รักกันจริงคงอยู่ด้วยกันไม่ได้คนที่อยู่สายนี้จะไม่พยายามที่จะ
อยู่ตัวคนเดียวเป็นอันขาดและจะทำการจับกลุ่ม 3 -5 คนเข้าไว้โดยมี
การกำหนดสีกันอย่างชัดเจน โดยอ้างว่าเวลาอยู่คนเดียวไม่สามารถเรียก
หุ่นยนต์ออกมาได้ -เกลียดจิงเชียว อาบะเรนเจอร์

Maid 
กลุ่มคนที่ชอบชุดสาวใช้ สาวเสริฟ 

Miko 
กลุ่มอนุรักษ์นิยมที่ชอบสตรีในชุดขาวแดง [มิโกะ เป็น ผู้รับใช้พระเจ้าเป็น
ผู้หญิงที่ทำหน้าที่ดูแลศาลเจ้า] บางครั้งมีการเพี้ยนออกไปในรูปแบบของ
ชุดนักบวชในศาสนาอื่นก้อมีอยู่บ้างประปราย

Megane 
สมาคมที่มีอยู่เพื่อไม่ให้ แว่นตา หายไปจากโลกนี้ [พวกชอบหนุ่มสาวที่ใส่แว่น] เป็นที่มาของคำว่า สาวแว่นสุดยอด

Kemono 
คนที่ชอบ พวกครึ่งคนครึ่งสัตว์ หรือ สัตว์ที่มีลักษณะคล้ายคนมากกว่าสัตว์ 
ยืนได้ พูดได้เป็นต้น

Mimi 
พวกคลั่งหู จะรวมๆใน พวกหูแมว หมา 
- Nekomimi กลุ่มคนที่คลั่งไคล้ หูแมว และหางแมว ตอนนี้มีเยอะมาก
- Inumimi ครายๆกับ Nekomimi แต่จะเป็น หูหมาหางหมาแทน - 
ใครชอบอินุยาฉะรู้ตัวซะว่า....   (ตอนนี้ก็มีไม่แพ้ nekomimi)

Tsundere 
ซึนเดเระ (ツンデレ) เป็น คำจำกัดความของบุคลิกภาพแบบหนึ่งที่มักจะปรากฏในอนิเม และมังงะ หมายถึง 
บุคลิกที่เมื่อแรกเริ่มจะไม่เป็นมิตร ดุ และเย็นชา แต่มาภายหลังกลับเปลี่ยนเป็น อ่อนไหว อ่อนหวาน
รากศัพท์นั้นมาจากคำว่า ซึนซึน (ツンツン) ที่หมายถึงบุคลิกเย็นชา โมโหร้าย รวมกับคำว่า 
เดเระเดเระ (デレデレ) ที่หมายถึงบุคลิกอ่อนหวาน 
ตัวละครหญิงที่มีบุคลิกแบบซึนเดเระ จะถูกเรียกว่า ซึนเดเรกโกะ (ツンデレっ娘)
จริงๆ แล้วตัวละครที่มีลักษณะดังกล่าวมีนิสัยค่อนข้างอ่อนไหวอยู่แล้ว เพียงแต่สร้างบุคลิกแข็งกร้าวขึ้นมาปิดบังเอาไว้ 
ดังนั้นเวลาที่ตัวละครเหล่านี้มีความรัก มักจะแสดงอาการในแบบที่มักจะเรียกกันว่า "รักนะ แต่ไม่แสดงออก" หรือมักจะมีอาการ 
"ปากไม่ตรงกับใจ" อยู่เสมอๆ
คุณสมบัติของสาวซึน
· รักนะแต่ไม่แสดงออก ปากแข็ง ปากไม่ตรงกับใจ
· ขี้หงุดหงิด ชอบโวยวาย ใช้อารมณ์ตัดสินมากกว่าเหตุผล
· เวลาโกรธจะไม่ฟังเสียงใครทั้งสิ้น ใช้กำลังท่าเดียว
· ฝีมือในการทำอาหารอยู่ในระดับต่ำมาก ถึงแม้จะพยายามถึงที่สุดแล้วก็ตาม T^T
· มักจะไม่ทำใจยอมรับความจริงและปฏิเสธใจตัวเอง เช่นเวลาชอบใครซักคนก็จะบอกกับตัวเองว่าไม่ได้ชอบ ทำนองเนี้ย
· มีเรี่ยวแรงพละกำลังมหาศาล หึหึ
· เวลาหลุดอาการเดเระเดเระออกมา มักจะเขินอาย และตอบโต้ด้วยกำลัง
· มักจะเข้าใจอะไรผิดได้ง่าย เพราะจริงๆแล้วเป็นคนคิดมากเกินเหตุ

Kinniku 
พวกที่ชอบจนถึงคลั่งไคล้ในมนุยษ์จำพวกที่มีกล้ามใหญ่ๆ - 
เคนชิโร่ บากิ คุนิกุแมน ดรากอนบอล

incest 
รักต้องห้าม [พ่อลูก แม่ลูก พี่น้อง] 

Siscon 
พวกบ้าพี่ชายน้องสาว[ในสายเลือดรึตามกฎหมาย] 

GuRo 

พวกที่ชอบการชำแหละ เลือด ฆ่า เครื่องใน ไส้ 

Rape 
พวกที่ชอบการข่มขืนกระทำชำเราประเภทฉีกเสื้อผ้า

bukkake 
สายนี้จะชอบแนวความเปียกชื้นเปื้อนเปรอะเลอะไปทั้งหน้าและตา 

Lolita
(โลลิต้า) - พวกนิยมชุดสาวน้อยสีหวาน แนวๆ คุณหนูไฮโซ ประมาณยุคอังกฤษสมัยศตวรรษที่ 18-19 เช่นกัน มีโบว์และพู่ฟ่องๆ เยอะๆ บางพวกนิยมนำมาผสมกับข้างบน ออกมาเป็นคุณหนู... (ปัจจุบันมีคนสับสนระหว่าง Gothic กับ Lolita กันเยอะ คนละอย่างนะจ๊ะ) 

Gothic (โกธิค) - พวกเป็นปลื้มกับสีทึบๆ เป็นพิเศษ ส่วนใหญ่จะเน้นอยู่ที่ ขาว ดำ แดง (แต่ชุดเหมือนกันกับ lolita )

AmaLoli  คือลักษณะตัวละครที่แต่งกายแนวโลลิต้า (เด็กใสซื่อ) ที่เน้นหวาน เครื่องแต่งกายจะออกโทนชมพูหรือขาว 

Shotacon (โชตะคอน) - ชอบเด็กชาย ถ้าอายุจัดอยู่ในเกณฑ์โดนข้อหาพรากผู้เยาว์ให้จัดอยู่ในหมวดนี้เช่นกัน 

Computer -พวกชอบแนวคอมพิวเตอร์ที่คล้ายๆ กับมนุษย์ (ตูก็ชอบ) อาจเป็นหนุ่มสาวหน้าตาดีด้วย มีทั้งเป็นโปรแกรม และเป็นตัวเป็นตนในโลกความจริง เช่น Chobits และ AI love   ในตอนนี้ที่ไม่พลาดเลยในเหล่าโอตาคุและไม่ใช่โอตาคุ ตะกูล Vocaloid
(ดูเหมือนคอมชายจะไม่ค่อยเป็นที่นิยมเท่าหญิง)

Silent
(ไซเลนท์) -สายนี้จะเป็นพวกที่ชอบตัวละครพูดน้อย ไม่พูดเลยยิ่งชอบ
(แต่ไม่ได้เป็นใบ้นะ)และส่วนมากสายนี้ก็จะทำหน้าตาเหมือนคนอมทุกข์
ไม่ค่อยแสดงสีหน้าออกมาให้เห็น (หรือเรียกว่าหน้าตายก็ได้) 

Siscon (ซิสคอน) - พวกบ้าพี่ชายน้องสาว [ในสายเลือดรึตามกฎหมาย]

Twincest
(ทวินเซสต์) -ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าทวิน ใช่แล้ว ความรักของฝาแฝดนั่นเอง อันนี้ค่อนข้างจะสับสนกับ I ซักหน่อย คาดว่าคงแตกย่อยออกมา

Fetishism (เฟติชม์) - คือพวกชอบสิ่งของหรือเครื่องแต่งกายเพศตรงข้าม รวมไปถึงพวกชอบแต่งกายในชุดยูนิฟอร์มต่างๆ (ชุดตำรวจ ชุดนางพยาบาล etc.)

Yandere(ยันเดเระ)ยันเดเระเป็นคำๆหนึ่งที่ประกอบไปคำสองคำคือ ยันเดะรุ กับ เดเระเดเระ สามารถพบเห็นได้ตาม อนิเมะ มังกะ และเกมหยิว ทั่วไป อาการการเบื้องต้นจะไม่แสดงออกให้คนอื่นทั่วไปเห็น แต่เมื่อารมณ์ได้มาถึงจุดๆหนึ่งเธอจะแสดงอารมณ์ฉุนเฉียวและโกรธเกรี้ยวอย่างเห็นได้ชัดและท้ายสุดจะแสดงออกด้วยการ ฆ่าผู้อื่น หรือ ฆ่าตัวตาย
พูดง่ายๆคือ หึงโหด   (ในตอนนี้กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก)